Diary

เ พื่ อ น 

เพื่อน คือ คนแรกที่ทำให้เรารู้จักผู้อื่น  เพื่อน...คือคนแปลกหน้าคนแรก...ที่ทำให้เรารู้จักความรัก
นอกเหนือจากคนในครอบครัว...ที่เรารักกันมาตั้งแต่แต่เกิด 

พื่อน...โผล่หัวมาตอนโต...เป็นใครไม่รู้...แล้วจู่ ๆ   
วันหนึ่งเราก็รักมันได้
ฉันมองความรักเพื่อน...เป็นความรักที่น่าเคารพยกย่อง
แต่ต้องเป็นเพื่อนแท้ด้วยนะ..เพื่อน..จะรักกันแบบพอดี ๆ
ไม่หวง...ไม่หึง..ไม่ต้องการอะไรตอบแทน..เรารักกันสบาย ๆ
มีปัญหาปรึกษากัน...มีเรื่องเดือดร้อนช่วยกัน
มีอะไรไม่สบายใจปรับทุกข์กัน  แต่ในขณะเดียวกันต่างคนต่างก็มีโลกเป็นของตัวเอง
เธอมีแฟนฉันไม่ว่า...เธอสนุกของเธอไป..  เราต่างยินดีในความสุขของกันและกัน
ไม่ต้องมาเจอกัน...ก็ยังห่วงกัน..ยังคิดถึงกัน  ถามไถ่ว่าเราจะห่างกันอย่างไร..เราจะคิดถึงกัน
และเราจะไม่มีวันเลิกคบกัน...เพราะเธอไปมีเพื่อนใหม่..  ต่างฝ่ายต่างมีเพื่อนใหม่..ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้...
มันเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข  คนบางคนบอกว่า..คุยกับเพื่อนได้ทุกเรื่อง...
แต่คุยกับแฟน...กับพ่อแม่ได้บางเรื่อง  นี่แหละ..ที่มันเป็นความรักที่ประหลาด...แต่งดงาม
มันมีความเข้าใจ...ไว้ใจ...เชื่อใจ...ในจุดสมดุล






...คุณค่าของคำว่าเพื่อน คือ สิ่งที่ช่วยให้คุณมองเห็นค่าของมิตรภาพ
หากมีเพื่อนแท้แม้เพียงสักหนึ่งคน เท่ากับว่าคุณได้เติมชีวิตให้เต็มเปี่ยม ทำไมชีวิตที่มีเพื่อนช่างเป็นชีวิตที่แสนดี คุณอาจถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายซาฮารา และลมอาจพัดเอาฝุ่นทรายเข้าตาแต่คุณยังคงจำลายมือของเพื่อนที่คุณรักที่สุดได้ คุณมีใครสักคนที่บ่นให้ฟังได้เสมอ คุณใส่เสื้อผ้าที่ดูแย่ที่สุดเมื่ออยู่กับเพื่อนได้ เมื่อคุณเล่าความลับให้เพื่อนฟัง เพื่อนจะเก็บไว้เป็นความลับ 
เพื่อนจะไม่ถือสาหาความ แม้ว่าคุณจะโทรไปปลุกแต่เช้า 
เมื่อเพื่อนถามคุณว่า สบายดีหรือเปล่า? 
คุณไม่จำเป็นต้องตอบว่า " สบายดี " 
คุณสามารถตั้งคำถามโง่ ๆ กับเพื่อนได้ โดยที่เพื่อนไม่หัวเราะเยาะคุณ 
เพื่อนอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่ากฎหมายจะว่าอย่างไร 
เพื่อนจะนินทาคนอื่นในแบบที่คุณนินทาเสมอ 
คุณสามารถยกเลิกอาหารมื้อค่ำได้ โดยที่ไม่ถูกตัดพ้อต่อว่าจากเพื่อน 
เสื้อผ้าของเพื่อน ก็เหมือนเสื้อผ้าของคุณยืมใช้กันได้เสมอ 
ถ้าไม่มีเพื่อน สมุดจดที่อยู่ก็ว่างเปล่านะสิ 
เพื่อนจะไม่บ่น ถ้าคุณยืนกินอาหารในครัว 
แทนที่จะนั่งบนเก้าอี้ให้เรียบร้อย 
มิตรภาพแตกหักได้ยากกว่าชีวิตคู่ 
เพื่อนยอมรับคุณได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะหนักเพิ่มขึ้นเท่าใด 
เพื่อนจะยังคงรักคุณเหมือนเดิม
คุณไม่จำเป็นต้องนำอะไรติดไม้ติดมือไปด้วยเมื่อโผล่หน้าไปเยี่ยมเพื่อน 
เพื่อนสามารถกลับมาคืนดีได้หลังจากทะเลาะกัน 
เพื่อนจะพูดความจริง เกี่ยวกับสีผมที่คุณเพิ่งไปทำ 
เพื่อนจะคอยเลี้ยงลูกให้ยามที่คุณยุ่ง 
เพื่อนจะให้คุณยืมเงินได้ง่ายกว่าไปธนาคาร 
คุณหยิบของในตู้เย็นของเพื่อนมากินได้โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน 
คุณสามารถโทรชวนเพื่อนออกมาดูหนังในคืนวันเสาร์ได้โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า 
คุณสามารถนั่งเงียบๆ ไปตลอดทางโดยไม่ต้องหาเรื่องมาคุยกัน 
เพื่อนคือใครสักคนที่คุณสามารถหลบออกจากที่ทำงาน และไปนั่งกินกาแฟด้วยกันได้ 
เพื่อนจะไม่ต่อว่าถ้าคุณเลิกนัดเพราะเจอคนถูกใจ 
เพื่อนจะไม่ทอดทิ้งคุณแม้ขณะติดคุก แม้ว่าเพื่อนจะไม่พบกันนานนับสิบปี แต่ความรู้สึกของคุณกับเพื่อนก็ยังคงเหมือนเดิม


แล้วคุณละ มีเพื่อนแบบไหนกันน ???.



นิยาย เรื่อง '' เ พื่ อ น "

ณวิทยาลัย
 "ต้น"เป็นนักศึกษาชายเรียนอยู่ ปี3ต้นเพิ่งกลับมาจากการไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ส่วน"แพท"กำลังจะไปแลกเปลี่ยนรุ่นต่อจากต้น  ทั้งสองได้เจอกันในงานอาสาสมัครจากต่างประเทศมาที่วิทยาลัย  ซึ่งก่อนหน้านี้ต้นกับแพทก็รู้จักกันมาก่อนแล้วแต่ว่าไม่สนิทกันสักเท่าไรนัก  วันหนึ่งแพทอยากได้เบอร์เพื่อนผู้หญิงที่ไปแลกเปลี่ยนกับต้น... แพทจึงไปตามหาผู้หญิงคนนี้แต่เจอต้นก่อน ก็เลยถามต้น
 แพท   :  "พี่ต้นคะมีเบอร์นิวไหมคะ"
ต้น   :  "นิวเค้าไม่มีดทรศัพท์นะ แพท  แพทมีอะไรหรือเปล่า"
แพท   :  "เปล่าคะ แพทแค่อยากปรึกษาเกี่ยวกับการแพ็คของไปต่างประเทศคะ"
ต้น   :  "แพท ถามพี่ก็ได้มีอะไรก็โทรหาพี่ได้ที่เบอร์นี้นะ"
แพท   :  "ขอบคุณมากคะพี่ต้น เดี๋ยวไว้แพทจะโทรหานะคะ"
จากวันนั้นทั้งสองก็เริ่มติดต่อและคุยกันจนเกิดเป็นความใกล้ชิดขึ้นมา
เย็นวันหนึ่ง
ติ๊กๆๆๆๆๆๆ
  ต้น :  "อ้าวแพท จะไปไหน  ให้พี่ไปส่งไหม"
แพท   :  "อ๋อ แพทจะกลับบ้านคะพี่ต้น  ไม่เป็นไรคะขอบคุณเดี๋ยวแพทนั่งรถเมย์เองคะ"
ต้น   :  "ไม่เป็นไร ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ"
ทั้งสองนั่งรถไปด้วยกัน พร้อมกับยอกล้อกันไปเรื่อยๆๆ
 แพทรู้สึกถูกชะตากับผู้ชายคนนี้จังเลย ทำไมนะคำพูดก็ห้วนๆๆ แต่ทำไมเราถึงรู้สึกดีได้
แพท   :  "ขอบคุณนะคะ"
หลังจากนั้น สองวันแพท  
ต้น :  "แพทไม่เห็นโทรหาพี่เลย "
แพท   :  "อ๋อ แพทอ่านหนังสือสอบอะคะ พี่ต้น คิดถึงแพทหรอ  อิอิอิ"
เปล่า   :  "เปล่า เอ่อแพทสอบเสร็จแล้วจะไปไหน"
แพท   :  "ยังไม่รู้เลยคะพี่ต้น นั่นแน่ จะไปเลี้ยงแพทหรอ ถามแบบนี้"
ต้น   :  "ก็ได้ อยากกินอะไรละ"
แพท   :  "ไม่รู้อะ  อะไรก็ได้"
ต้น   :  "ไปดูหนังกันไหม"
แพท   :  "ก็ได้อะ  เรื่องอะไร"
ต้น  :  "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2"
แพท   :  "กี่โมงดีพี่ต้น"
ต้น   :  "แล้วแต่แพทสะดวก"
แพท   :  "โอเคงั้นเป็นบ่ายๆ นะคะ"
ก่อนจะถึงโรงหนัง ต้นถามแพทว่า แพทถ้าพี่อยากเป็นแฟนแพทต้องทำยังไง
แพทคิดในใจผู้ชายบ้าอะไรถามตรงจัง.........(12 มีนาคม 2550)
หลังจากที่ถ่ายรูปกันเสร็จกลับเพื่อนๆแล้ว แพทก็ไปดูหนังกับต้น .................ดูหนังเสร็จก็พาต้นไปล้างรูป เดินเล่นสวนสาธารณ ฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ (ถึงแม้จะหิวข้าวแต่ก็อดทน) ก็อยู่ใกล้เขาแล้วรู้สึกดียังไงบอกไม่ถูกเลย
หลังจากวันนั้นต้นก็มารับมาส่งแพทตลอดไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าว ด้วยกัน ทุกที่ที่มีต้นก็ต้องมีแพท แพทเริ่มตีตัวออกจากกลุ่มเพื่อนไม่ไปเที่ยว ไม่ไปไหนมาไหนกับเพื่อน  จากนั้นแพทก็เดินทางไปต่างประเทศ แพทรุ้สึกเหงา เพราะเขาคิดถึงต้นมาก วันแรกที่ไปถึงต้นก็    msn ไปหาเพื่อนของต้น และขอคุยกับแพท แพทรู้สึกดีใจมาก ต้นบอกรายละเอียดต่างๆให้แพทฟังด้วยความเป็นห่วง จัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อย ตลอดระยะเวลา 1ปีที่แพทไปแลกเปลี่ยน แพทกับต้นไม่เคยไม่มีวันไหนไม่คุยกัน เลิกเรียนแพทก็จะมาออนเอ็มรอต้น ความรู้สึกมันมีค่ามากในแต่ละวัน
แพทกลับมาถึงเมืองไทย โดยมีต้นไปรับ  ครั้งแรกที่เจอหน้ากันแพทรู้สึกเขินยังไงบอกไม่ถูก ผู้ชายคนนี้หรือที่เราคุยมาตั้งนานผ่านอนเตอร์เน็ต หน้าตาอย่างนี้เองหรอ แพทคิด แล้วก็อมยิ้ม
พอกลับมาถึงที่พักต้นก็ขอตัวกลับบ้าน ทั้งต้นและแพทเริ่มใช้ชีวิตคู่กัน ไม่ว่าจะไปเรียน เที่ยว กินข้าว ยกเว้นนอนด้วยกัน เวลาของแต่ละวันช่างมีค่ามาก แพทกับต้นเรียนจบพร้อมกัน รับปริญญาพร้อมกันและก็ทำงานที่เดียวกัน ต้นก็จะทำหน้าที่ไปรับไปส่งแพทเสมอ มีเวลาหน่อยก็จะอยู่เป็นเพื่อนแพทจนดึก ถึงแม้ว่าจะโดนที่บ้านว่าก็ตาม 
 หนึ่งปีที่ทำงานร่วมกัน เริ่ม 16 มีนาคม 2553 แพทกับต้นเริ่มมีปากเสียงกันก่อนหน้านี้ต้นจะยอมแพทตลอดแต่วันนี้ต้นเปลี่ยนไปและไม่ยอม ต้นไม่มีเวลาให้แพทเหมือนเดิม ไม่สามารถมารับมาส่งได้ในบางครั้ง ต้นไปไหนก็ไม่อยากให้แพทไปด้วย แพทขออะไรต้นก็หาว่าแพทกำหนดชีวิตของต้น ต้นบอกว่าต้นมีบ้านต้นต้องรีบกลับ ถ้าแพทไม่เข้าใจเอาแต่ใจตัวเองต้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน ต้นไม่เคยกินข้าวกับแพทเลยจากวันนั้น ความรู้สึกของแพทเริ่มแย่ แพทไม่สามารถไปทำงานได้ แพทเอาแต่ร้องไห้ ไร้สติเหมือนคนบ้า โทรหาต้นต้นก็มีแต่ด่าว่าจู้จี๊ ต้นบอกกับแพทว่าถ้าต้นจะมาหาแพทหรือไม่นั้นต้นจะเป็นคนคิดเองถ้าต้นอยากมาต้นก็จะมาเอง ต้นไม่ให้แพทยุ่งกับโทรศัพท์และคอมต้นเลย แพทจะเอาอะไรให้บอกแล้วต้นจะเปิดเอาให้เอง ต้นเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มไม่โทรหา แพทอยากไปไหนต้นก็ให้แพทไปคนเดียว ไม่มีไปรับไปส่งอีกแล้ว แพทพยามคิดหาเหตุผลว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับต้น ยิ่งแพทคิดมากก็ยิ่งทำให้แพทเครียด แพทกินไม่ได้นอนไม่หลับ แพทรู้สึกว่าเขาขาดผู้ชายคนนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ชีวิตเขาจะอยู่ยังไง   แพทไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ฟังเลย อึดอัดมาก เพื่อนๆๆก็ได้แต่เป็นห่วงและปลอบใจแพท แพทเคยคิดอยากฆ่าตัวตยแต่แพทก็คิดถึงพ่อและแม่ทำให้แพทคิดอะไรใหม่ แต่ยังทำใจลืมต้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร แต่แพทจะจำประโยคนี้ไว้เสมอ "แพท พ่อกับแม่รักแพทนะ ไม่ว่าแพทจะเป็นยังไง แต่พ่อกับแม่จะอยู่ข้างแพทเสมอ แพทจะต้องเข้มแข็งนะลูก"เป็นคำพูดที่แม่กับพ่อโทรมาหาแพทก่อนที่แพทเกือบจะทำอะไรแย่ๆลงไป...

ข้อคิด ... ผู้อ่านคิดเอาเพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกันอยู่ที่จินตนาการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น